KODAK M35 น้องเค้ามาให้ใช้นานๆ

 
คือผมใช้กล้องพร้อมฟิล์ม แบบที่เราเรียกกันว่า "กล้องใช้แล้วทิ้ง" มาซักพักละครับ ก็ถ่ายไปหลายตัวอยู่  พอถ่ายเสร็จผมก็จะเก็บกล้องเหล่านั้นมาโหลดฟิล์มใหม่เพื่อถ่ายอีกรอบ ซึ่งมันมีปัญหาอยู่นิดนึงครับ  คือวิธีการโหลดฟิล์มใหม่ที่ยากอยู่พอสมควร  ทำให้ไปไปมามาไม่ค่อยอยากนำกล้องแบบนี้กลับมาใช้ใหม่ซักเท่าไหร่   แต่ในวันนี้ Kodak ได้ออกกล้องใหม่มาตัวนึงครับ มันช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ดีทีเดียว ไปดูกันครับ

KODAK M35
แว่บแรกที่เห็นกล้องตัวนี้นะครับ เอาแบบตรงๆคือ "ซื้อแน่ๆ" คนอื่นจะว่าไงไม่รู้ครับ แต่ผมชอบทรงกล้องและสีเหลืองดำของมันมาก....และตามสเต็ป  คือรู้ตัวอีกทีกล้องก็มาตั้งบนโต๊ะแล้วครับ 

โกดักทำกล้องรุ่นนี้ออกมา 3 สีครับ คือ เหลือง เขียว และชมพู

 มาดูกันครับว่ากล้องแบบนี้ราคาไม่เกินพัน Spec มันเป็นไงบ้าง

- วัสดุพลาสติก ABS  ผิวสัมผัสจะเงาๆหน่อย
- กล้องฟิล์มขนาด 135 เปลี่ยนฟิล์มได้
- ใส่ฟิล์ม iso 200-400 (แต่จริงๆใส่ 800 ก็ได้ครับยิ่งดีเลย)
- เลนส์ 31 มม. ระยะโฟกัสเริ่มที่ 1 เมตร
- F10  , Speed Shutter 1/120s
- แฟลชในตัว 
- แบตเตอรี่ ใช้ถ่าน AAA 1 ก้อน

จาก Spec ดูแล้วก็ไม่ได้ต่างจากกล้องใช้แล้วทิ้งยี่ห้ออื่นๆเท่าไหร่ และที่เหมือนกันแน่ๆคือมันเหมาะสำหรับการถ่ายภาพในที่ที่มีแสงสว่างมากๆ  และต้องเปิดแฟลชทุกครั้งเมื่อถ่ายในที่ร่มหรือสภาพแสงน้อย

ลองแกะกล่องมาดูกันครับ

ด้านหน้า
บอดี้กล้องใหม่ ทรงนี้ไม่เคยเห็นครับ แต่คิดว่าเดี๋ยวต้องมีกล้องที่ใช้บอดี้หน้าตาแบบนี้ออกมาในยี่ห้ออื่นๆแน่ๆแต่ไปทำสีทำสติ้กเกอร์กันใหม่.  ที่ด้านนี้หลักๆที่เราต้องใช้ก็คือปุ่มเปิดแฟลชเป็นแบบเลื่อนซ้าย ขวา เปิดปิดครับ 

ด้านบน
จะมีปุ่มชัตเตอร์ , ตัวนับจำนวนภาพ , ไฟแจ้งแฟลชพร้อมใช้งาน , แล้วก็ตัวกรอฟิล์มครับ

ด้านหลัง
เป็นฝาปิดสีดำ มีช่องมองภาพ กับตัวเลื่อนฟิล์มที่นิ้วโป้งขวามือ

ด้านล่าง
เป็นช่องใส่ถ่าน AAA  1 ก้อน สำหรับยิงแฟลชครับ ข้างๆกันมีปุ่มกดสำหรับการกรอฟิล์มครับ

ด้านข้างซ้าย
เป็นตัวเลื่อนเปิดฝาหลังครับ

ด้านใน
ห้องเครื่องด้านในผมว่าดูเรียบร้อยกว่าหลายๆรุ่นนะครับ และเป็นกล้องแบบใส่ฟิล์มช่องซ้ายแล้วดึงฟิล์มไปม้วนแกนทางขวา เหมือนกับกล้องฟิล์มส่วนใหญ่ แบบนี้ถนัดดีครับ

ในส่วนของช่องมองภาพ
บอกเลยว่าตอนถ่ายให้เผื่อๆไว้หน่อยนะครับ เพราะตาม Spec บอกว่าครอบคลุมพื้นที่ภาพแค่ 70% เท่านั้น แปลว่าอะไรที่เราไม่เห็นในช่องนี้จะออกมาอีกเพียบเลยครับสำหรับรูปจริง


การใช้งาน
ก็ง่ายๆครับตามสเต็ปกล้องฟิล์มทั่วไปเลย 
1.เปิดฝาหลังแล้วดันสลักกรอฟิล์มขึ้นด้านบน

2.ใส่ฟิล์มอะไรก็ได้ตั้งแต่ iso 200 ขึ้นไป ยิ่งเยอะภาพยิ่งสว่างขึ้น เพราะกล้องเค้าฟิก f stop กับ speed shutter ไว้แล้ว(ในภาพผมใช้ฟิล์มที่เสียแล้วมาทดลองใส่ให้ดูนะครับ) ใส่เสร็จก็ดันสลักกลับเข้าที่เดิม

3.จากนั้นให้เอาช่องหนามเตยของหางฟิล์มไปเกี่ยวกับเดือยตรงนี้ ถ้าไม่เห็นให้หมุนตัวเลื่อนฟิล์มไปเรื่อยๆ จะมีอยู่ 1 อันครับ  

4. หมุนตัวเลื่อนฟิล์มให้ฟิล์มเลื่อนต่อเข้าไปอีกซักหน่อย แล้วจัดให้หนามเตยของฟิล์มเข้าไปอยู่ในเฟืองให้เรียบร้อย  จากนั้นปิดฝาหลังครับ

5. พอปิดฝาหลังแล้วให้เลื่อนตัวเลื่อนฟิล์มไปทางขวาจนสุด ขณะหมุนให้สังเกตด้วยว่าตัวกรอฟิล์มทางด้านซ้ายหมุนตามด้วยหรือเปล่า  ถ้าหมุนตามแสดงว่าถูกต้อง ให้กดชัตเตอร์ แล้วเลื่อนตัวเลื่อนฟิล์มจนสุดอีกครั้ง กล้องก็พร้อมใช้งานแล้วครับ 
(ในกรณีตอนเลื่อนฟิล์มแล้วตัวกรอฟิล์มไม่หมุนตาม อาจจะเกิดจากใส่ฟิล์มไม่ดีจนมันหลุด ให้เปิดฝาหลังแล้วใส่ฟิล์มใหม่ครับ)

6. กรณีเข้าที่ร่มหรือแสงน้อยต้องเปิดแฟลชเสมอครับ ให้เราเลื่อนเปิดแฟลชที่ด้านหน้า รอจนไฟที่ด้านบนสว่าง จึงจะกดชัตเตอร์ได้ครับ.  

7.ถ้าฟิล์มหมดจะเกิดอาการตัวเลื่อนฟิล์มเลื่อนต่อไม่ได้ หรือเลื่อนได้แต่กดชัตเตอร์แล้วไม่ทำงานแสดงว่าฟิล์มหมดครับ  ถ้าจะเอาฟิล์มออก ให้พลิกที่ด้านล่างแล้วกดปุ่มกรอฟิล์มสีดำ "ค้างเอาไว้" ย้ำนะครับว่ากดค้าง

8.ขณะที่ยังกดปุ่มที่ด้านล่างค้างไว้ให้เราหมุนตัวกรอฟิล์ม โดยหมุนตามลูกศรที่เห็นครับ ค่อยๆหมุนช้าๆไปเรื่อยๆมันจะรู้สึกฝืดๆตึงๆหน่อย  และพอเราหมุนจนฟิล์มกลับเข้ากลักหมดแล้ว จะรู้สึกน้ำหนักการหมุนมันจะเบาลงมาก ให้เปิดฝาหลังแล้วดึงแกนตัวกรอฟิล์มขึ้นเพื่อจะเอาฟิล์มออกมาครับ


แค่นี้แหละครับวิธีใช้ง่ายๆ  ต่อไปมาดูในส่วนของภาพถ่ายที่ออกมากันบ้างครับ รอบนี้ผมถ่ายไปทั้งหมด 4 ม้วนด้วยกันครับ ลองมาดูรูปกันครับ

1.KODAK ULTRAMAX 400
มีความรู้สึกส่วนตัวว่าฟิล์ม 200 มันสปีดต่ำไปนิดกับกล้องตัวนี้ครับ เลยจัด  iso 400 ก่อนเลย

เริ่มจากถ่ายตอนเย็นๆแล้วลากยาวไปช่วงหัวค่ำแบบลองไม่เปิดแฟลชเลย ก็จะได้ประมาณนี้ครับ

พอรุ่งขึ้นก็รีบออกเดินทางไปเกาะรัตนโกสินทร์เลยครับ กลัวฝนมันตกเดี๋ยวไม่ได้ลองของอีก 


เริ่มต้นที่วัดโพธิ์



ต่อที่กระทรวงกลาโหมตึกเหลืองๆ



จากนั้นเดินต่อที่ด้านนอกวัดพระแก้ว  และเข้าในวัดไม่ได้  เพราะลืมไปดันใส่กางเกงขาสั้นมา



ผ่านศาลหลักเมือง

แล้วเดินต่อเข้าย่าน แพร่งนรา



หมดม้วนแรก สังเกตเลยว่าท้องฟ้าออกมาสีน้ำเงินกว่าปกติ เพราะ Ultramax ชอบแจกสีน้ำเงินแบบนี้ แต่ชอบจัง  

ภาพรวมๆคือ ภาพมุมกว้างกว่าที่คิดครับ ต้องถ่ายเผื่อหน่อยตอนจัดองค์ประกอบ , ภาพจะคมสุดตรงกลางภาพ แล้วจะเริ่มเบลอเมื่อไปถึงขอบภาพครับ 

ต่อที่ม้วน 2  ขอเพิ่ม iso ขึ้นอีกนิดละกัน

2. LOMO 800


ผ่านแพร่งนรา มาที่เสาชิงช้า วัดสุทัศน์ฯ



ลองยิงแฟลชซะหน่อย

เดินต่อไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

เดินยาวๆต่อไปวัดราชนัดดา และโลหะปราสาท



แล้วก็มาถึงจุดที่ต้องเปิดแฟลชอีกครั้งคือใต้ฐานโลหะปราสาท จะมีทางเดินรอบๆ คืออยู่ในร่ม ตามกฎที่ผมบอกคือต้องเปิดแฟลชแน่นอน เลยเปิดไป 1 รูป

และด้วยความอยากลองเลยขอแบบปิดแฟลชดูสิจะมืดขนาดไหนเชียว

อ้าวออกมาใช้ได้อยู่ อาจจะเพราะแสงสะท้อนไปมาบนเพดานสีขาวเลยทำให้ภาพดูสว่างกว่าปกติ


มองเห็นภูเขาทองอยู่ไกลๆ แต่วันนี้คงเดินไม่ถึง เพราะออกนอกเส้นทางไปเยอะ

จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าสามยอด  คือจะกลับบ้านละแต่แบบฟิล์มยังไม่หมดม้วนสอง  เลยตัดสินใจแวะหัวลำโพงก่อน



มืดๆแบบไม่ยิงแฟลช

อ่ะลองเปิดแฟลช

ออกมาด้านนอก เออค่อยดีขึ้นหน่อย


หลังจากวันนั้นหมดไปสองม้วนกลับมาบ้านล้างฟิล์มมานั่งดูก็เออ เฮ้ยกล้องมันก็ทำได้ดีนะภาพออกมาดีเลย  แม้จะไม่ดีมาก แต่เทียบในระดับกล้องพร้อมฟิล์มยี่ห้ออื่นๆผมว่าตัวนี้ทำได้ดีนะ 

และเมื่อเวลาผ่านไปเริ่มรู้สึกอยากลองเอา KODAK M35 ตัวนี้มาใส่ฟิล์มขาวดำบ้าง ภาพจะออกมาเป็นยังไงนะ  ว่าแล้วก็จัดเลย  ออกเดินทางกันอีกครั้ง

3. YASHICA BLACK & WHITE 400
เหมือนเดิมเลยคือใช้บริการรถไฟฟ้ามาส่งที่สถานีสนามไชย  ออกที่ทางออกปากคลองตลาดแล้วลุยทันที

เริ่มเดินจาก ตลาดดอกไม้ที่ปากคลองตลาดไปที่สะพานพุทธครับ



พอข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาที่ฝั่งธนแล้ว  ก็เดินเข้าวัดประยูรฯ ก่อนเลย



โบสถ์ ซางตาครู้ส

เดินต่อไปที่วัดกัลยาณมิตร

วัดอรุณ

หมดม้วนสามอย่างรวดเร็ว กลับไปลองฟิล์มสีต่อเลยดีกว่า


4. KODAK ULTRAMAX 400




จากนั้นนั่งเรือข้ามฝากไปยังท่าเตียน



เดินยาวๆผ่ายวัดโพธิ์ มาออกที่รถไฟฟ้าสถานีสามยอดครับ

 

สรุปการใช้งาน
หลังจากโดนไปเต็มๆ 4 ม้วนก็พอจะเห็นภาพมากขึ้นแล้วนะครับว่ากล้องมันทำงานได้น่าพอใจขนาดไหน ส่วนตัวผมคิดแบบนี้ครับ

- อย่างแรกคือเป้าหมายของ KODAK  ที่ทำกล้องออกมาให้สามารถเปลี่ยนฟิล์มได้ มันเลยทำให้เรานำกล้องกลับมาใช้งานได้อีก ซึ่งค่าตัวไม่ถึงพัน ใช้งานกันยาวๆขึ้นถือว่าคุ้มมากเลยครับ
- คุณภาพของภาพ ผมคิดว่ามันทำได้ดีกว่านิดนึง ในกล้องระดับเดียวกัน  ภาพที่ออกมามีความสว่างและความคมที่กลางภาพ แล้วจะค่อยๆลดลงเมื่อเข้าสู่ขอบภาพ
- การใช้งานง่ายมาก แต่ต้องคำนึงถึงกฎเหล็กอยู่เสมอด้วยคือ มันเหมาะกับการถ่ายภาพในที่มีแสงสว่างมากๆ แต่ถ้าเข้าที่ร่มแบบเลี่ยงไม่ได้ ต้องเปิดแฟลช ซึ่งแฟลชก็มีระยะทำการไม่กี่เมตรเท่านั้นครับ เปิดแฟลชเซลฟี่แบบนั้นพอไหว (แต่สังเกตว่าพอปิดแฟลชแล้ว ภาพที่ถ่ายต่อไปแฟลชจะยังยิงออกมา 1 ทีเสมอ)
- วัสดุนั้นไม่ได้ดีมากครับ ก็อย่างที่เราเรียกว่ากล้อง ป๊อกแป๊ก ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะว่าผลิตจากวัสดุพลาสติกที่ทำให้ราคาถูกลง แต่ผมเองกลับคิดว่าถึงจะเป็นพลาสติกแต่งานเค้าก็ออกมาเนี๊ยบสวยดีนะครับ หน้าตาสีสันทำให้รู้สึกน่าใช้ขึ้นเยอะ 
- ถ้าถามว่ากล้องนี้เหมาะกับใคร ผมว่าเหมาะกับทุกคนแหละครับ มือใหม่ที่อยากจะลองสัมผัสกล้องฟิล์มดูว่าภาพที่ออกมามันให้อารมณ์ภาพแบบไหน ผมว่าก็เหมาะเพราะราคาไม่แรงเลย  ส่วนคนที่ใช้กล้องฟิล์มประจำอยู่แล้ว จะซื้อมาใช้สำหรับวันที่อยากถ่ายอะไรเล่นๆ อยากเดินตัวเบาๆ พกกล้องเข้ากระเป๋าง่ายๆ ผมก็ว่ามันใช้ได้ดีเลยแหละ

สำหรับอนาคตนะครับ  ผมว่าค่ายอื่นๆคงจะมีกล้องออกมาในสไตล์นี้อีกแน่นอนก็ต้องดูกันต่อไปครับ 

สำหรับวันนี้ผมคิดว่า กล้อง KODAK M35 ซื้อมาใช้งานได้ครับ คุ้มมาก

ขอบคุณมากๆนะครับที่เข้ามาอ่านกัน
โน้ต อะฟิล์ม




41 comments

  • Good Afternoon,

    My name is Hattie, from The Akira Team – I just noticed your website through your Entireweb Website Listing, and wanted to get in touch with you right away.

    We have a special offer for your website today, and that is 1st Page Rankings in all major search engines (That’s Google, Yahoo and Bing) + social media and video commercial advertising starting at just $29.99 which I am ABSOLUTELY certain will benefit your website and business, by bringing you LOTS of new customers, very very quickly.

    Visit useakira.com if you want your website to be at the TOP of Google, Yahoo and Bing, AND we can get you started immediately. Or visit useakira.com/11yearexclusive.html in the next 12 hours for a HUGE half price offer + your 2nd year free of charge.

    I look forward to hearing back from you.

    Cheers!

    Hattie
    The Akira Team
    Executive Page One Relations
    B-7(u5jxqxpi9xe)

    Hattie
  • Металлоконструкции

    ErnestSpage
  • https://xn—116-qdd9albfz5a2cwb.xn—p1ai/%D1%82%D1%80%D0%B5%D0%B7%D0%B2%D1%8B%D0%B9-%D0%B2%D0%BE%D0%B4%D0%B8%D1%82%D0%B5%D0%BB%D1%8C/

    RogerDox
  • песнь лета

    Richardnig
  • песнь песней слушать онлайн

    JosephLek

Leave a comment